แนวข้อสอบ
พระราชบัญญัติ ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
*******************
1. พระราชบัญญัติ ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๐๙ ค. ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๙
ข. ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๐๙ ง. ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๐๙
ตอบ ค. ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๙
2. พระราชบัญญัติ ยาสูบ ฉบับปัจจุบันเป็นฉบับที่เท่าใด
ก. ฉบับที่ 3 ค. ฉบับที่ 5
ข. ฉบับที่ 7 ง. ฉบับที่ 4
ตอบ ข. ฉบับที่ 7
3. ข้อใด ไม่ใช่ ยาสูบ
ก. บุหรี่ซิกาแรต ค. ยาเส้นปรุง
ข. ยาเคี้ยว ง. ยาอัด
ตอบ ง. ยาอัด
“ยาอัด” หมายความว่า ส่วนใดส่วนหนึ่งของต้นยาสูบซึ่งได้ป่นหรือย่อยและทำเป็นแผ่นโดยมีวัตถุอื่น เจือปนด้วยหรือไม่ก็ตาม
4. ใบยาหรือยาอัดซึ่งได้หั่นเป็นเส้นและแห้งแล้ว คือ
ก. ยาอัด ค. ยาเส้นปรุง
ข. ยาเส้น ง. ยาเคี้ยว
ตอบ ข. ยาเส้น
“ยาเส้น” หมายความว่า ใบยาหรือยาอัดซึ่งได้หั่นเป็นเส้นและแห้งแล้ว
“ยาเส้นปรุง” หมายความว่า ใบยาซึ่งมิใช่ใบยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมืองหรือยาอัด ซึ่งได้หั่นเป็นเส้นและปรุง
หรือปนด้วยวัตถุอื่นนอกจากน้ำ
5. บทนิยามคำว่า “ยาอัด” ในมาตรา 4 ถูกแก้ไขโดยมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฉบับใด
ก. (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๔ ค. (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๑
ข. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511 ง. (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๒
ตอบ ข. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511
6. บทนิยามคำว่า “ยาเคี้ยว” ในมาตรา 4 ถูกแก้ไขโดยมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบฉบับใด
ก. (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ค. (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2534
ข. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2511 ง. (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2533
ตอบ ก. (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512
7. ใครมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าแสตมป์ยาสูบ
ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต ค. ปลัดกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออก กฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและค่าแสตมป์ยาสูบไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้ และกำหนดกิจการอื่นเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
8. ราคา ซี.ไอ.เอฟ. ของยาเส้นหรือยาสูบ คืออะไร
ก. ราคายาเส้นหรือยาสูบที่บวกด้วยค่าประกันภัย
ข. ราคายาเส้นหรือยาสูบที่บวกด้วยค่าขนส่งถึง ด่านศุลกากรในราชอาณาจักร
ค. ราคายาเส้นหรือยาสูบที่บวกด้วยค่ากระบวนการผลิต
ง. ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
9. ในกรณียาเส้นที่ทำในราชอาณาจักร ให้ถือตามราคาขายใด
ก. ราคา ซี.ไอ.เอฟ.
ข. ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ
ค. ราคาที่อธิบดีประกาศตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
ง. ไม่มีข้อถูก
ตอบ ข. ราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ
มาตรา ๕ ตรี การเสียค่าแสตมป์ยาสูบตามมูลค่านั้น ให้ถือมูลค่าตาม (๑) และ (๒)โดยให้รวมค่าแสตมป์ยาสูบที่พึงต้องชำระด้วย ดังนี้
(๑) ในกรณียาเส้นที่ทำในราชอาณาจักร ให้ถือตามราคาขาย ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ
ในกรณีไม่มีราคาขายยาเส้น ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ หรือราคาขายยาเส้น ณ โรงอุตสาหกรรมยาสูบ
มีหลายราคา ให้ถือตามราคาที่อธิบดีประกาศตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๒) ในกรณียาเส้นหรือยาสูบที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ถือราคา ซี.ไอ.เอฟ. ของยาเส้นหรือยาสูบ บวกด้วยอากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน และภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นตามที่จะได้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา แต่ไม่รวมถึงภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่กำหนดในหมวด ๔ ลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร
10. ใครมีอำนาจในการกำหนดให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งใช้พันธุ์ยาสูบใด ๆ ได้
ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต ค. ปลัดกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต
มาตรา ๖ ให้อธิบดีมีอำนาจกำหนดให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งใช้พันธุ์ยาสูบใด ๆ ได้ตามที่เห็นสมควรโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
11. ผู้ใดทำการเพาะปลูกต้นยาสูบ ต้องได้รับอนุญาตจากใคร
ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต ค. ปลัดกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. เจ้าพนักงาน
ตอบ ง. เจ้าพนักงาน
มาตรา ๗ ผู้ใดทำการเพาะปลูกต้นยาสูบ ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
12. ใบอนุญาตที่ออกตาม (มาตรา 7 ) สิ้นอายุเมื่อครบกำหนดกี่ปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
ก. 1 ปี ค. 3 ปี
ข. 2 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ก.1 ปี
13. ใครสามารถจำหน่ายใบยาสดแก่ผู้อื่นได้
ก. ผู้บ่มใบยา ค. ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ
ข. ผู้อบใบยา ง. ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบ
ตอบ ก. ผู้บ่มใบยา
มาตรา ๘ ห้ามมิให้ผู้เพาะปลูกต้นยาสูบจำหน่ายใบยาสดแก่ผู้อื่นนอกจากผู้บ่มใบยาตามที่กำหนดไว้ใน ใบอนุญาต เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดี
บทบัญญัติมาตรานี้มิให้ใช้บังคับแก่การจำหน่ายใบยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมืองหรือใบยาที่ผู้บ่มใบยาไม่รับ ซื้อ
14. ผู้ใดตั้งสถานีบ่มใบยาหรือสร้างโรงบ่มใบยาเพิ่มจำนวนขึ้นต้องได้รับอนุญาตจากใคร
ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต ค. ปลัดกระทรวงการคลัง
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. เจ้าพนักงาน
ตอบ ก. อธิบดีกรมสรรพสามิต
มาตรา ๙ ผู้ใดตั้งสถานีบ่มใบยาหรือสร้างโรงบ่มใบยาเพิ่มจำนวนขึ้นต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
การขออนุญาต การออกใบอนุญาตและเงื่อนไขว่าด้วยการสร้างสถานีบ่มใบยาหรือโรงบ่มใบยา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
15. ใบอนุญาตจัดตั้งสถานีบ่มใบยามีอายุกี่ปี
ก. 1 ปี ค. 3 ปี
ข. 5 ปี ง. ตลอดไป
ตอบ ง. ตลอดไป
16. ผู้ใดทำการบ่มใบยา ต้องได้รับอนุญาตจากใคร
ก. ปลัดกระทรวงการคลัง ค. เจ้าพนักงาน
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. อธิบดีกรมสรรพสามิต
ตอบ ค. เจ้าพนักงาน
มาตรา ๑๐ ผู้ใดทำการบ่มใบยา ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
17. ใบอนุญาตทำการบ่มใบยา สิ้นอายุเมื่อครบกำหนดกี่ปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
ก. 1 ปี ค. 5 ปี
ข. 2 ปี ง. 3 ปี
ตอบ ก. 1 ปี
18. ใบอนุญาตตั้งโรงอบใบยาหรือเพิ่มจำนวนเครื่องอบใบยามีอายุกี่ปี
ก. 1 ปี ค. 3 ปี
ข. 5 ปี ง. ตลอดไป
ตอบ ง. ตลอดไป
มาตรา ๑๒ ผู้ใดตั้งโรงอบใบยาหรือเพิ่มจำนวนเครื่องอบใบยาต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
การขออนุญาต การออกใบอนุญาตและเงื่อนไขว่าด้วยการสร้างโรงอบใบยา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่อธิบดีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ใบอนุญาตที่ออกตามมาตรานี้มีอายุตลอดไป
19. ใบอนุญาตทำการอบใบยาสิ้นอายุเมื่อครบกำหนดกี่ปี นับแต่วันออกใบอนุญาต
ก. 1 ปี ค. 5 ปี
ข. 2 ปี ง. 3 ปี
ตอบ ก. 1 ปี
มาตรา ๑๓ ผู้ใดทำการอบใบยา ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
การขออนุญาต การออกใบอนุญาตและเงื่อนไขว่าด้วยการอบใบยา การเก็บรักษาใบยาตลอดทั้งการทำบัญชี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ใบอนุญาตที่ออกตามมาตรานี้สิ้นอายุเมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันออกใบอนุญาต
20. ใครมีอำนาจประกาศกำหนดราคาใบยา
ก. ปลัดกระทรวงการคลัง ค. เจ้าพนักงาน
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. อธิบดีกรมสรรพสามิต
ตอบ ง. อธิบดีกรมสรรพสามิต
21. การประกอบอุตสาหกรรมอะไรที่เป็นการผูกขาดของรัฐ
ก. บุหรี่ซิการ์ ค. บุหรี่ซิกาแรต
ข. ยาเส้นปรุง ง. ยาเคี้ยว
ตอบ ค. บุหรี่ซิกาแรต
มาตรา ๑๖ การประกอบอุตสาหกรรมบุหรี่ซิกาแรตเป็นการผูกขาดของรัฐ
22. ผู้ใดประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ ต้องได้รับอนุญาตจากใคร
ก. ปลัดกระทรวงการคลัง ค. เจ้าพนักงาน
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ง. อธิบดีกรมสรรพสามิต
ตอบ ง. อธิบดีกรมสรรพสามิต
มาตรา ๑๗ ผู้ใดประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
23. ใบอนุญาตประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ สิ้นอายุเมื่อใด
ก. เมื่อครบกำหนด 5 ปี ค. เมื่อครบกำหนด 1 ปี
ข. เมื่อครบกำหนด 3 ปี ง. สิ้นปีปฏิทิน
ตอบ ง. สิ้นปีปฏิทิน
24. ยาเส้นหรือยาสูบใดที่ไม่ต้องปิดแสตมป์ยาสูบ
ก. ยาเส้นหรือยาสูบที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปขายนอกราชอาณาจักร
ข. ยาเส้นหรือยาสูบที่ได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาขายในราชอาณาจักร
ค. ยาเส้นที่ทำจากใบยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ค
มาตรา ๑๘ ให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ บรรจุยาเส้นหรือยาสูบในซองและปิดแสตมป์ยาสูบตาม พระราชบัญญัตินี้ ก่อนนำออกจากโรงอุตสาหกรรมยาสูบ นอกจากยาเส้นที่ทำจากใบยาพันธุ์ยาสูบพื้นเมือง
ยาเส้นหรือยาสูบที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไปขายนอกราชอาณาจักรไม่ต้องปิดแสตมป์ยาสูบ แต่ต้อง
ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
25. พระราชบัญญัติ ยาสูบ พ.ศ. ๒๕๐๙ ห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบ ไว้ในครอบครองเกินกว่า
ก. 300 กรัม ค. 1,000 กรัม
ข. 500 กรัม ง. 800 กรัม
ตอบ ข. 500 กรัม
มาตรา ๑๙ ห้ามมิให้ผู้ใดมียาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัตินี้ไว้ในครอบครองเกินกว่าห้าร้อยกรัม นอกจากผู้ประกอบอุตสาหกรรมยาสูบ
ให้ผู้มียาสูบที่ไม่ต้องปิดแสตมป์ยาสูบหรือผู้มียาสูบที่ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ พุทธศักราช ๒๔๘๖ เกินกว่าห้าร้อยกรัม ปิดแสตมป์ยาสูบให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัตินี้ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ