แนวข้อสอบ พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
1. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 19 กันยายน 2538 ข. 9 ธันวาคม 2540
ค. 20 พฤษภาคม 2548 ง. 15 สิงหาคม 2550
ตอบ ข. พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ เมื่อพ้น 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นวันบังคับใช้ คือวันที่9 ธันวาคม 2540
2. ข้อมูลข้อที่เท็จจริงที่อยู่ในความครอบครองดูแลของหน่วยงานรัฐบาลหมายถึงข้อใด
ก. ข้อมูลข่าวสาร
ข. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ค. ข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. ข้อมูลข่าวสารทางราชการ
ตอบ ค. ข้อมูลข่าวสารของราชการ
3. องค์กรใดมีหน้าที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานรัฐและปฏิบัติงานทั่วไปเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ก. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. คณะอนุกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ตอบ ก. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
4. ข้อมูลข่าวสารราชการ หากมีบางส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยให้ดำเนินการเช่นใด
ก. ห้ามเปิดเผยทั้งฉบับ
ข. ให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง
ค. ให้ลบหรือตัดตอนข้อความนั้น
ง. ให้ดำเนินการข้อใดข้อหนึ่ง
ตอบ ค. ให้ลบหรือตัดตอนข้อความนั้น
5. ภาระหน้าที่สำคัญของหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารส่วนราชการคือข้อใด
ก. พิมพ์ข้อมูลข่าวสารลงในราชกิจจานุเบกษา
ข. จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนได้ตรวจดู
ค. ทำข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
6. หากประชาชนดูข้อมูลข่าวสารต่อหน่วยงานของท่าน แต่ข้อมูลข่าวสารนั้นอยู่ในความควบคุมของหน่วยงานอื่น จะดำเนินการอย่างไร
ก. ไม่รับคำขอ
ข. รับคำขอและยื่นต่อหน่วยงานนั้นๆ
ค. รับคำขอและเป็นธุระจัดหาให้
ง. แนะนำให้ไปยื่นคำขอต่อหน่วยงานนั้นๆ
ตอบ ง. แนะนำให้ไปยื่นคำขอต่อหน่วยงานนั้นๆ
7. กรณีที่ประชาชนไม่ได้ดูข้อมูลข่าวสารจากราชการหรือไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่มีเหตอันสมควรจะร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ
ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอบ ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
8. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ควรเปิดเผยหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการตามข้อใด
ก. แจ้งให้ประชาชนได้ทราบ
ข. ประกาศห้ามในราชกิจจานุเบกษา
ค. ลบหรือตัดทอนข้อมูลข่าวสารนั้น
ง. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
ตอบ ง. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
9. ข้อมูลข่าวสารใด หน่วยงานราชการเปิดเผยไม่ได้
ก. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. รายงานบทบาทการแพทย์ของบุคคลใดๆ
ค. ข้อมูลเกี่ยวกับราชการทางทหาร
ง. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ตอบ ง. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
10. ข้อมูลที่หน่วยงานรัฐจะเปิดเผยแต่กระทบต่อบุคคลอื่นๆ ต้องแจ้งให้บุคคลนั้นเสนอคัดค้านมิให้เปิดเผยในเวลาตามข้อใด
ก. ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง
ข. ไม่น้อยกว่า 15 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง
ค. ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง
ง. ไม่น้อยกว่า 30 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง
ตอบ ข. ไม่น้อยกว่า 15 วันนับตั้งแต่วันรับแจ้ง
11. การดำเนินการตามข้อ 10 หากหน่วยงานรับยังไม่ประสงค์จะเปิดเผยและมีคำสั่งมิให้รับฟังคำคัดค้านบุคคลนั้นจะอุทธรณ์เพื่อมิให้เปิดเผยข้อมูลต่อได้ภายใน 15 วัน
ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบ
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
12. เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐได้เปิดเผยข้อมูลโดยดำเนินการถูกต้องตามระเบียบโดยอำนาจสมควรแก่เหตุ และเพื่อประโยชน์อันสำคัญเกี่ยวกับสาธารณะหากเข้าข่ายต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. ถือว่าปฏิบัติสุจริตแล้ว
ข. ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ค. รับผิดชอบตามความผิดนั้น
ง. ไม่ต้องรับผิดชอบหากกระทำโดยสุจริต
ตอบ ง. ไม่ต้องรับผิดชอบหากกระทำโดยสุจริต
13. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก. บุคคลตัวแทนบุคคลมีสิทธิได้รู้ถึงข้อมูลข่าวสารของบุคคลนั้น
ข. ให้จัดทำคำข้อมูลหรือสำเนาข้อมูลนั้นได้
ค. หน่วยงานต้องให้ตรวจดูให้สำเนาได้ เว้นแต่ข้อมูลที่มิได้เปิดเผย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
14. ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะเก็บรักษา หรือมีอายุครบเก็บ จะต้องเก็บรักษา หรือจัดให้ประชาชนได้ศึกษาที่หน่วยงานใด
ก. สำนักงานทะเบียนกลาง สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ค. สำนักงานทะเบียนกลางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ง. ให้หน่วยงานรัฐนั้นๆ ทำลายตามระเบียบงานสารบรรณ
ตอบ ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
15. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ มีอายุเก็บรักษากี่ปี
ก. 20 ปี ข. 25 ปี
ค. 35 ปี ง. 75 ปี
ตอบ ง. 75 ปี
16. ข้อมูลที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยหากมีอายุการเก็บครบ 20 ปี แต่หน่วยงานรัฐเห็นว่ายังไม่สมควรเปิดเผยต้องขอขยายเวลาส่งเก็บรักษา โดยขยายเวลาไม่เกินคราวละกี่ปี
ก. 1 ปี ข. 5 ปี
ค. 7 ปี ง. 10 ปี
ตอบ ข. 5 ปี
17. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ก. คณะกรรมการมีทั้งหมด 23 คนโดยตำแหน่ง 14 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน
ข. คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี แต่งตั้งอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 2 วาระ
ค. การวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการคือเสียงข้างมาก
ง. คณะกรรมการพิจารณาร้องเรียนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หากจำเป็นขยายเวลาอีกไม่เกิน 30 วัน
ตอบ ข. คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี แต่งตั้งอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 2 วาระ
18. ใครไม่ได้เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (ขสร.)
ก. ปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี
ข. เลขาธิการ ศ.พ.
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ
ง. ปลัดกรทรวง
ตอบ ข. เลขาธิการ ศ.พ.
19. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯ
ก. มีจำนวน 5 คณะแต่งตั้งโดย ครม. ตามที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเสนอ
ข. คณะกรรมการแต่ละคณะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน
ค. เลขานุการ, ผู้ช่วยเลขานุการแต่ละคณะแต่งตั้งจากข้าราชการประจำ
ง. พิจารณาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดกรรมการที่แต่งตั้งจากหน่วยงานรับข้อมูลไปพิจารณา
ตอบ ง. พิจารณาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดกรรมการที่แต่งตั้งจากหน่วยงานรับข้อมูลไปพิจารณา
20. เมื่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารได้รับข้ออุทธรณ์จากผู้ขอ ต้องส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัยสาขานั้นๆ ภายในกี่วัน นับตั้งแต่คณะกรรมการได้รับคำอุทธรณ์
ก. 5 วัน
ข. 7 วัน
ค. 10 วัน
ง. 15 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
21. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยให้ถือเป็นที่สุด
ข. กรรมการวินิจฉัยข้อมูลจะไม่เป็นเลขานุการในคณะนั้นๆ
ค. ระเบียบการรักษาความปลอดภัยยังใช้อยู่ ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง
ง. คณะกรรมการแต่ละคณะมี 3 คน
ตอบ ง. คณะกรรมการแต่ละคณะมี 3 คน
22. ผู้ใดที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเรียกมาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งวัสดุเอกสาร พยานมาให้แต่ ไม่ทำตามคำสั่งของคณะกรรมการ มีบทลงโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน
ข. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ค. ทั้งจำ ทั้งปรับ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
23. ผู้ใดฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อจำกัดตามเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนดทำให้มีความรับผิดชอบตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี
ข. จำคุกไม่เกิน 2 ปี
ค. ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ง. ข้อ ก. หรือ ค. หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. ข้อ ก. หรือ ค. หรือทั้งจำทั้งปรับ
24. รัฐธรรมนูญมาตราใดบ้าง ที่กล่าวอ้างเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ก. มาตรา 58
ข. มาตรา 59
ค. มาตรา 60
ง. เฉพาะข้อ ก,ข เท่านั้น
ตอบ ง. เฉพาะข้อ ก,ข เท่านั้น
25. ข้อใดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร
ก. พิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล
ข. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งที่ให้รับคำคัดค้าน
ค. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
26. ข้อใดคือหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล ข่าวสาร
ข. พิจารณาวินิจฉัยให้ความเห็นในคำร้องเรียนนั้น
ค. สอดส่องดูแล ให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามระเบียบหรือพระราชบัญญัติ
ง. จัดทำรายงานเสนอต่อ ครม.
ตอบ ก. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล ข่าวสาร
27. บุคคลย่อมมีสิทธิรับทราบข้อมูลข่าวสารสาธารณะของทางราชการยกเว้น
ก. เพื่อความมั่นคงของรัฐ
ข. เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ค. ทำให้บุคคลอื่นมีส่วนได้เสีย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
28. ข้อใดไม่ใช่วิธีการเผยแพร่ข่าวสารของหน่วยงานรัฐ
ก. การขาย
ข. การจำหน่าย
ค. การจ่ายแจก
ง. การประกาศ
ตอบ ง. การประกาศ
29. ข้อมูลข่าวสารของราชการใดที่สามารถเปิดเผยได้
ก. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระมหากษัตริย์
ข. รายงานทางการแพทย์
ค. ข้อมูลข่าวสารทางการปกครอง
ง. ทุกข้อมูลต้องเปิดเผย
ตอบ ก. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระมหากษัตริย์
30. ข้อมูลข่าวสารที่สามารถจัดให้ประชาชนเข้าตรวจได้ แต่ถ้าต้องห้ามมิให้เปืดเผยให้ดำเนินการตามข้อใด
ก. ไม่เปิดเผยทั้งฉบับ
ข. มีคำสั่งมิให้เปิดเผยและหมายเหตุไว้
ค. ลบ ตัดตอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย
ง. ขีดฆ่าข้อความนั้น
ตอบ ง. ขีดฆ่าข้อความนั้น
31. ใครมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาของข้อมูลข่าวสารที่สาวนราชการจัดไว้ให้
ก. บุคคลทั่วไป
ข. บุคคลที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับข้อมูล
ค. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับข้อมูล
32. หากมีบุคคลมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ภายใน 15 วัน
ข. ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ค. ภายใน 30 วัน
ง. ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ตอบ ง. ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
33. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ จะก่อให้เกิดอันตราย หรือต่อความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จะดำเนินการอย่างไร
ก. ไม่เปิดเผย ข. ให้คำชี้แจง
ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย ง. ไม่รับคำขอ
ตอบ ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
34. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล คำว่าบุคคลหมายถึงข้อใด
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ข. นิติบุคคล
ค. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิ่นอยู่ในประเทศไทย
ง. ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ค
ตอบ ง. ถูกเฉพาะ ข้อ ก และ ค
35. มีอำนาจวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือคำสั่ง ไม่รับคำคัดค้านไม่ให้แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูล คือหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. อนุกรรมการที่มีคณะกรรมการ ข้อมูลข่าวสารของราชการแต่งตั้ง
ง. คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารราชการแต่งตั้ง
ตอบ ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
36. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานรัฐตาม พรบ. ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ. 2540
ก. กระทรวงศึกษาธิการ ข. คณะกรรมการของสภา
ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง ง. ศาลที่พิจารณาคดี
ตอบ ง. ศาลที่พิจารณาคดี
37. ข้อใดคือเหตุยกเว้นไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลราชการ
ก. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ข. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วเกิดผลเสียหายต่อประโยชน์ที่สำคัญของเอกชน
ค. ข้อมูลที่เปิดเผยแล้วเกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ข้อ ก และ ข ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูก
38. หน่วยงานรัฐต้องจัดข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามข้อใด
ก. จัดระบบข้อมูลข่าวสารเท่าที่จำเป็น เกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงาน
ข. เก็บข้อมูลจากเจ้าของโดยตรงและตรวจสอบแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
ค. จัดระบบความปลอดภัยให้กับข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
39. ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผย เนื่องจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อข้าราชการในสังกัดเมื่อเก็บรักษาไว้แล้วกี่ปี จึงจะส่งข้อมูลดังกล่าว ไปเก็บไว้ที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติ
ก. ครบ 10 ปี ข. ครบ 20 ปี
ค. ครบ 25 ปี ง. ครบ 75 ปี
ตอบ ข. ครบ 20 ปี
40. ใครเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ง. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ตอบ ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
41. ข้อมูลข่าวสารราชการ หากมีบางส่วนที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผยให้ดำเนินการเช่นใด
ก. ห้ามเปิดเผยทั้งฉบับ
ข. ให้ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง
ค. ให้ลบหรือตัดทอนข้อความนั้น
ง. ให้ดำเนินการข้อใดข้อหนึ่ง
ตอบ ค. ให้ลบหรือตัดทอนข้อความนั้น
42. ภารหน้าที่สำคัญของหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารส่วนราชการคือข้อใด
ก. พิมพ์ข้อมูลข่าวสารลงในราชกิจาจา
ข. จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนได้ตรวจดู
ค. ทำข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
43. กรณีประชาชนไม่ได้ดูข้อมูลข่าวสารจากราชการหรือไม่ได้รับความสะดวกไม่มีเหตุสมควรจะร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ
ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอบ ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
44. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ควรเปิดเผยหน่วยงานรัฐต้องดำเนินการตามข้อใด
ก. แจ้งให้ประชาชนได้ทราบ
ข. ประกาศห้ามในราชกิจจานุเบกษา
ค. ลบหรือตัดทอนข้อมูลข่าวสารนั้น
ง. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
ตอบ ง. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
45. ข้อมูลข่าวสารใดหน่วยงานราชการเปิดเผยไม่ได้
ก. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. รายงานบทบาทการแพทย์ของบุคคลใดๆ
ค. ข้อมูลเกี่ยวกับราชการทหาร
ง. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ตอบ ง. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
46. เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยข้อมูลโดยดำเนินการถูกต้องตามระเบียบโดยอำนาจสมควรแก่เหตุและเพื่อประโยชน์อันสำคัญเกี่ยวกับสาธารณะหากเข้าข่ายต้องรับผิดชอบตามกฎหมายข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. ถือว่าปฏิบัติสุจริตแล้ว
ข. ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
ค. รับผิดชอบตามความผิดนั้น
ง. ไม่ต้องรับผิดชอบหากกระทำโดยสุจริต
ตอบ ง. ไม่ต้องรับผิดชอบหากกระทำโดยสุจริต
47. ข้อใดถูกต้อง
ก. บุคคลตัวแทนบุคคลมีสิทธิได้รู้ถึงข้อมูลข่าวสารของบุคคลนั้น
ข. ให้จัดทำคำขอดูข้อมูลหรือสำเนาได้
ค. หน่วยงานต้องให้ตรวจดูให้สำเนาได้ เว้นแต่ข้อมูลที่มิให้เปิดเผย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
48. ข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐประสงค์จะเก็บรักษา หรือมีอายุครบเก็บ จะต้องเก็บรักษา หรือจัดให้ประชาชนได้ศึกษาที่หน่วยงานใด
ก. สำนักงานทะเบียนกลาง สำนักงานนายกรัฐมนตรี
ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ค. สำนักงานทะเบียนกลางสำนักงานปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี
ง. ให้หน่วยงานรัฐนั้นๆ ทำลายตามระเบียบงานสารบรรณ
ตอบ ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
49. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ มีอายุการเก็บรักษากี่ปี
ก. 20 ปี ข. 25 ปี
ค. 35 ปี ง. 75 ปี
ตอบ ง. 75 ปี
50. ข้อมูลที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยหากมีอายุการเก็บครบ 20 ปี แต่หน่วยงานรัฐเห็นว่ายังไม่ควรเปิดเผยต้องขอขยายเวลาส่งเก็บรักษา โดยขยายเวลาไม่เกินคราวละกี่ปี
ก. 1 ปี ข. 5 ปี
ค. 7 ปี ง. 10 ปี
ตอบ ข. 5 ปี
51. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ก. คณะกรรมการมีทั้งหมด 23 คน โดยตำแหน่ง 14 คนผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน
ข. คณะกรรมการมีวาระตำแหน่งคราวละ 3 ปี แต่งตั้งอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 2 วาระ
ค. การวินิจฉัยชี้ขาดของคณะกรรมการคือเสียงข้างมาก
ง. คณะกรรมการพิจารณา คำร้องเรียนให้แล้วสร้างภายใน 30 วัน หากจำเป็นขยายเวลาอีกไม่เกิน 30 วัน
ตอบ ข. คณะกรรมการมีวาระตำแหน่งคราวละ 3 ปี แต่งตั้งอีกก็ได้แต่ไม่เกิน 2 วาระ
52. ใครไม่ได้เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ(ขสร.)
ก. ปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรี ข. เลขาธิการ ศ.พ.
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานงบประมาณ ง. ปลัดกระทรวงยุติธรรม
ตอบ ง. ปลัดกระทรวงยุติธรรม
53. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับคณะกรรมการข้อมูลวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารฯ
ก. มีจำนวน 5 คณะแต่งตั้ง ครม. ที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเสนอ
ข. คณะกรรมการแต่ละคณะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน
ค. เลขานุการแต่ละคณะมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน
ง. การพิจารณาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดกรรมการที่แต่งตั้งจากหน่วยงานที่รับข้อมูลไปพิจารณา
ตอบ ง. การพิจารณาเกี่ยวข้องกับหน่วยงานใดกรรมการที่แต่งตั้งจากหน่วยงานที่รับข้อมูลไปพิจารณา
54. เมื่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารได้รับข้ออุทธรณ์จากผู้ขอ ต้องส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัยสาขานั้นๆ ภายในกี่วัน นับตั้งแต่คณะกรรมการได้รับอุทธรณ์
ก. 5 วัน ข. 7 วัน
ค. 10 วัน ง. 15 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
55. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลฯ ให้คือเป็นที่สุด
ข. กรรมการวินิจฉัยข้อมูลจะไม่เป็นเลขานุการในขณะนั้นๆ
ค. ระเบียบการรักษาความปลอดภัยยังใช้อยู่ในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง
ง. คณะกรรมการแต่ละคณะมี 3 คน
ตอบ ง. คณะกรรมการแต่ละคณะมี 3 คน
56. ผู้ใดที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารเรียกมาใช้ถ้อยคำหรือให้ส่งเอกสาร พยานมาให้แต่ไม่ทำตามคำสั่งของคณะกรรมการมีบทบาทลงโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ข. ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ค. ทั้งจำทั้งปรับ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
57. ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามข้อจำกัดตามเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนดทำให้มีความรับผิดชอบตามกฎหมาย ต้องได้รับโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี ข. จำคุกไม่เกิน 2 ปี
ค. ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ง. ข้อ ก. หรือ ค. หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ง. ข้อ ก. หรือ ค. หรือทั้งจำทั้งปรับ
58. รัฐธรรมนูญ มาตราใดที่กล่าวอ้างเกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ก. มาตรา 58 ข. มาตรา 59
ค. มาตรา 60 ง. เฉพาะข้อ ก,ข เท่านั้น
ตอบ ง. เฉพาะข้อ ก,ข เท่านั้น
59. ข้อใดเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสาร
ก. พิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูล
ข. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งที่ให้รับคำคัดค้าน
ค. พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือลบข้อมูลส่วนบุคคล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
60. ข้อใดคือหน้าที่ของคณะกรรมการการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. พิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. พิจารณาวินิจฉัยให้ความเห็นในคำร้องเรียนนั้น
ค. สอดส่องดูแลให้คำแนะนำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตามระเบียนหรือพระราชบัญญัติ
ง. จัดทำรายงานเสนอต่อ ครม.
ตอบ ก. พิจารณาวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
61. บุคคลย่อมมีสิทธิรับทราบข้อมูลข่าวสารสาธารณะของทางราชการยกเว้น
ก. เพื่อความมั่นคงของรัฐ ข. เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ค. ทำให้บุคคลอื่นมีส่วนได้เสีย ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
62. ข้อใดไม่ใช่วิธีการเผยข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานรัฐ
ก. การขาย ข. การจำหน่าย
ค. การจ่ายแจก ง. การประกาศ
ตอบ ง. การประกาศ
63. ข้อมูลข่าวสารของราชการใดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้
ก. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. รายงานทางการแพทย์
ค. ข้อมูลข่าวสารทางการปกครอง
ง. ทุกข้อมูลต้องเปิดเผย
ตอบ ก. ข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
64. ข้อมูลข่าวสารที่สามารถจัดให้ประชาชนเข้าตรวจได้ แต่ถ้าต้องห้ามมิให้เปิดเผยให้ดำเนินการตามข้อใด
ก. ไม่เปิดเผยทั้งฉบับ
ข. มีคำสั่งมิให้เปิดเผยและหมายเหตุไว้
ค. ลบ ตัดทอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย
ง. ขีดฆ่าข้อความนั้น
ตอบ ค. ลบ ตัดทอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย
65. ใครมีสิทธิเขาตรวจดู ขอสำเนาของข้อมูลข่าวสารที่ส่วนราชการจัดไว้ให้
ก. บุคคลทั่วไป
ข. บุคคลที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับข้อมูล
ค. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
66. หากมีบุคคลมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ภายใน 15 วัน
ข. ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ค. ภายใน 30 วัน
ง. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ตอบ ง. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
67. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ จะก่อให้เกิดอันตรายหรือต่อความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จะดำเนินการอย่างไร
ก. ไม่เปิดเผย ข. ให้คำชี้แจง
ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย ง. ไม่รับคำขอ
ตอบ ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
68. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล คำว่า “บุคคล” หมายถึงข้อใด
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ข. นิติบุคคล
ค. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติ แต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. ถูกทุกข้อ เฉพาะข้อ ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ เฉพาะข้อ ก และ ค
69. มีอำนาจวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือคำสั่ง ไม่รับคำคัดค้านและคำสั่งไม่ให้แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูล คือหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. คณะอนุกรรมการที่มีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ของราชการแต่งตั้ง
ง. คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารราชการแต่งตั้ง
ตอบ ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
70. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานรัฐตาม พรบ. ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ. 2540
ก. กระทรวงศึกษาธิการ
ข. คณะกรรมการของสภา
ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง
ง. ศาลพิจารณาคดี
ตอบ ง. ศาลพิจารณาคดี
71. ข้อใดคือเหตุยกเว้นไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลราชการ
ก. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ข. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วเกิดผลเสียหายต่อประโยชน์ที่สำคัญของเอกชน
ค. ข้อมูลที่เปิดเผยแล้วเกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก
72. หน่วยงานรัฐต้องจัดข้อมูลข่าวสารบุคคลตามข้อใด
ก. จัดระบบข้อมูลข่าวสารเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงาน
ข. เก็บข้อมูลจากเจ้าของโดยตรงและตรวจสอบแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องอยู่เสมอ
ค. จัดระบบความปลอดภัยให้กับข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
73. ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผย เนื่องจากจะก่อให้เกิดอันตรายต่อข้าราชการในสังกัดเมื่อเก็บรักษาไว้แล้วกี่ปีจึงจะส่ง ข้อมูลดังกล่าวไปเก็บไว้ที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติ
ก. ครบ 10 ปี ข. ครบ 20 ปี
ค. ครบ 25 ปี ง. ครบ 75 ปี
ตอบ ข. ครบ 20 ปี
74. ใครเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ง. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ตอบ ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
75. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ก. ผู้ยกร่างคือ สสร. จำนวน 99 คน
ข. มีผลบังคับใช้ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ 11 ต.ค. 40
ค. เป็นกฎหมายสูงสุด ฉบับที่ 16 สาระสำคัญส่งเสริมปฏิรูปทางการเมืองเป็นเป้าหมายหลัก
ง. นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการ
ตอบ ก. ผู้ยกร่างคือ สสร. จำนวน 99 คน
76. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง
ข. พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดกล่าวหาฟ้องร้องมิได้
ค. ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่ภายใต้ความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญ
ง. กรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับ การวินิจฉัยกรณีนั้นเป็นไปตามประเพณีปกครองระบอบประชาธิปไตย
ตอบ ค. ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่ภายใต้ความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญ
77. คณะบุคคลตามข้อใด ไม่ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ก. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ข. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ค. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ง. คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ
ตอบ ง. คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ
78. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะองคมนตรี
ก. คณะองคมนตรีมี 19 คน มีประธานองคมนตรี 1 คน องคมนตรี 18 คน
ข. ประธานรัฐสภา เป็นผู้ลงนามสนองพระราชโองการการแต่งตั้งประธาน
ค. กษัตริย์สามารถเลือกแต่งตั้งปลดออกตามพระราชอัธยาศัย
ง. องคมนตรีต้องไม่เป็นบุคคลหรือคณะบุคคลต่างๆที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ตอบ ข. ประธานรัฐสภา เป็นผู้ลงนามสนองพระราชโองการการแต่งตั้งประธาน
79. ข้อใดไม่ใช่เสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. เสรีภาพในการเดินทางและเลือกถิ่นที่อยู่
ข. เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูดการสื่อสาร การสื่อความหมาย
ค. เสรีภาพในการรักษาพยาบาลจากสถานบริการของรัฐ
ง. เสรีภาพในการนับถือศาสนาปฏิบัติตามพิธีกรรมของศาสนา
ตอบ ค. เสรีภาพในการรักษาพยาบาลจากสถานบริการของรัฐ
80. ข้อใดไม่ใช่เสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. เสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
ข. เสรีภาพในการสื่อสาร
ค. เสรีภาพในการชุมนุม
ง. เสรีภาพในการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐที่ต้องจัดให้
ตอบ ง. เสรีภาพในการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐที่ต้องจัดให้
81. ข้อใดเป็นความเสมอภาค ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ก. กฎหมายและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ข. ชีวิต และร่างกายของบุคคล
ค. การรวมตัวกันเป็นสมาคมสหภาพสหพันธ์ สหกรณ์ หรือหมู่คณะอื่น
ง. การรวมตัวในการจัดตั้งพรรคการเมือง
ตอบ ก. กฎหมายและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
82. ข้อใดเป็นสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. การบำรุงรักษาคุ้มครองส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. การประกอบอาชีพ กิจกรรมต่างๆ
ค. ทางวิชาการ
ง. ในเคหสถาน การเดินทาง การเลือกที่อยู่
ตอบ ก. การบำรุงรักษาคุ้มครองส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
83. ข้อใดเป็นเสรีภาพของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ก. ในชีวิตและร่างกาย
ข. ในครอบครัว เกรียติยศชื่อเสียงความเป็นส่วนตัว
ค. การรับข้อมูล คำชี้แจงเหตุผลจากหน่วยงานราชการ
ง. ในชีวิตและร่างกาย
ตอบ ง. ในชีวิตและร่างกาย
84. ข้อใดเป็นทั้งสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. ในชีวิตและร่างกาย
ข. ในครอบครัว เกียรติยศชื่อเสียงความเป็นส่วนตัว
ค. การรับข้อมูล คำชี้แจงเหตุผลจากหน่วยงานราชการ
ง. ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ และความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ
ตอบ ก. ในชีวิตและร่างกาย
85. การที่บุคคลได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐจัดให้ถือว่าเป็นเรื่องใด
ก. สิทธิ ข. เสรีภาพ
ค. หน้าที่ ง. ความเสมอภาค
ตอบ ก. สิทธิ
86. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของชนชาวไทย
ก. การปฏิบัติตามกฎหมาย และไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ข. การช่วยเหลือราชการ เสียภาษี เป็นทหารช่วยป้องกันประเทศ
ค. รักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ง. ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
ตอบ ง. ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
87. บุคคลตามข้อใดต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ก. บุคคลทั่วไป ข. เอกชน
ค. ข้าราชการ ง. นิติบุคคล
ตอบ ค. ข้าราชการ
88. ข้อใดกล่าวถึงการจัดการศึกษาในแนวนโยบายพื้นฐานของรัฐ
ก. กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดการศึกษาได้มากขึ้น
ข. จัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้ คู่คุณธรรม
ค. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง
ง. ข้อ ข และข้อ ค ถูก
ตอบ ง. ข้อ ข และข้อ ค ถูก
89. องค์ประกอบของรัฐสภา คือข้อใด
ก. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
ข. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
ค. สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ง. สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภาพัฒนา
ตอบ ข. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
90. บุคคลใดเป็นประธานรัฐสภา
ก. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. ประธานวุฒิสภา
ง. จากการคัดเลือกของสภาทั้งสอง
ตอบ ก. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
91. ผู้ที่นำร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาแล้วทูลเกล้า ทูลกระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์
ก. ประธานรัฐสภา
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ง. นายกรัฐมนตรี
92. ข้อมูลข่าวสารในข้อใดที่ไม่ต้องเปิดเผย
ก. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. ข้อมูลข่าวสารที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทั่วประเทศ
ค. ข้อมูลข่าวสารที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ง. ทุกจ้อที่กล่าวมา
ตอบ ก. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
93. ข้อมูลข่าวสารของราชการในข้อใดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้
ก. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ข. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร
ค. การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
ตอบ ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
94. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มีอายุการเก็บรักษากี่ปี
ก. 20 ข. 25
ค. 35 ง. 75
ตอบ ง. 75
95. กรณีประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าดูข้อมูลข่าวสารราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานของตนเอง
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ
ตอบ ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
96. ข้อมูลข่าวสารที่สามารถให้ประชาชนเข้าดูแต่ถ้าต้องห้ามมิให้เปิดเผยได้ ต้องดำเนินการในข้อใดจึงจะถูกต้อง
ก. เปิดเผยเฉพาะส่วนนั้น
ข. ใช้การตัดต่อหรือขีดฆ่าข้อความที่ไม่ให้เปิดเผย
ค. เจ้าหน้าที่บอกเฉพาะบุคคลที่เข้าไปดูข่าวสารเท่านั้น
ง. ลบ ตัดทอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย
ตอบ ง. ลบ ตัดทอน ทำอย่างอื่นที่ไม่เป็นการเปิดเผย
97. ข้อมูลข่าวสารในข้อใดที่บุคคลย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู หรือขอสำเนาได้
ก. มติคณะรัฐมนตรี
ข. โครงการงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ค. คู่มือการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ง. ทุกข้อ
ตอบ ง. ทุกข้อ
98. ถ้ามีประชาชนเข้ามาขอดูข้อมูลข่าวสารในหน่วยงานของท่าน แต่ท่านไม่มีข้อมูลนั้น ท่านจะดำเนินการอย่างไรจึงจะถูกต้อง
ก. บอกว่าไม่มี แล้วหลังจะหาให้
ข. ให้ไปถามที่หอสมุดหรือเจ้าหน้าที่คนอื่น
ค. ไปดำเนินการให้ที่หน่วยงานอื่น
ง. แนะนำหน่วยงานที่มีข้อมูลและให้ไปขอดูที่หน่วยงานนั้น
ตอบ ง. แนะนำหน่วยงานที่มีข้อมูลและให้ไปขอดูที่หน่วยงานนั้น
99. ถ้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารจะก่อให้เกิดอันตรายหรือความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จะดำเนินการตามข้อใด
ก. ทำให้เป็นเรื่องลับ ข. ปกปิด
ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย ง. ไม่รับคำร้องขอดูข้อมูลข่าวสารนั้น
ตอบ ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
100. ข้อใดต่อไปนี้เป็นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ก. ประวัติสุขภาพ ข. รูปถ่าย
ค. ลายนิ้วมือ ง. ทุกข้อ
ตอบ ง. ทุกข้อ
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )