แนวข้อสอบกฎหมาย พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
1. พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ประกาศวันที่เท่าใด
ก. 2 ตุลาคม 2546 ข. 3 ตุลาคม 2546
ค. 1 พฤษภาคม 2547 ง. 2 พฤษภาคม 2547
ตอบ ก. 2 ตุลาคม 2546
2. พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ใช้บังคับวันใด
ก. พ้นกำหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. พ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. พ้นกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ง. พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 หมายถึงข้อใด
ก. เด็ก ข. เยาวชน
ค. นักเรียน ง. นักศึกษา
ตอบ ก. เด็ก
4. ข้อใด ไม่ใช่ เด็กพิการ ตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ก. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย ข. เด็กที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น
ค. เด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง ง. เด็กที่มีความบกพร่องทางจิตใจ
ตอบ ก. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกาย
5. ข้อใดคือความหมายของ สถานรับเลี้ยงเด็กตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ก. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุต่ำกว่าหกปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป
ข. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินหกปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป
ค. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่ต่ำกว่าเจ็ดปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไป
ง. สถานที่รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กที่มีอายุไม่เกินเจ็ดปีบริบูรณ์ และมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไป
6. พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีทั้งสิ้นกี่หมวดกี่มาตรา
ก. 6 หมวด 86 มาตรา ข. 7 หมวด 88 มาตรา
ค. 8 หมวด 86 มาตรา ง. 9 หมวด 88 มาตรา
ตอบ ง. 9 หมวด 88 มาตรา
7. ข้อใด ไม่ใช่ ผู้รักษาการตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ก. รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. รมต.ว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ค. รมต.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. รมต.ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ตอบ ง. รมต.ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
8. สงเคราะห์ซึ่งมีจำนวนตั้งแต่หกคนขึ้นไปคือความหมายของข้อใด
ก. สถานรับเลี้ยงเด็ก ข. สถานแรกรับ
ค. สถานสงเคราะห์ ง. สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ
ตอบ ค. สถานสงเคราะห์
9. ใครเป็นประธานกรรมการคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
10. จากข้อ 9 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องเป็นสตรีจำนวนเท่าใด
ก. 1 ใน 3 ข. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
ค. 2 ใน 3 ง. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3
ตอบ ข. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
11. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ข. 3 ปี
ค. 4 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ข. 3 ปี
12. ประธานคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด คือใคร
ก. รัฐมนตรี ข. ปลัดกระทรวง
ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด ง. เลขาธิการ สพฐ.
ตอบ ค. ผู้ว่าราชการจังหวัด
13. เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์มีกี่ประเภท
ก. 4 ประเภท ข. 6 ประเภท
ค. 8 ประเภท ง. 9 ประเภท
ตอบ ค. 8 ประเภท
14. เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพมีกี่ประเภท
ก. 3 ข. 5
ค. 7 ง. 9
ตอบ ก. 3
15. ข้อใด ไม่ใช่ เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ก. เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
ข. เด็กที่ถูกทารุณกรรม
ค. เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
ง. เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
ตอบ ก. เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
16. บุคคลที่ได้รับการสงเคราะห์มีอายุสิบแปดปีบริบูรณ์แต่ยังอยู่ในสภาพที่จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์ต่อไป ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดอาจสั่งให้ได้รับการสงเคราะห์ต่อไปจนอายุเท่าใด
ก. 20 ปี ข. 20 ปีบริบูรณ์
ค. 24 ปี ง. 24 ปีบริบูรณ์
17. การส่งเด็กไปสถานแรกรับ สถานพัฒนาและฟื้นฟู หรือสถานที่อื่นใด ระหว่างสืบเสาะและพินิจเพื่อหาวิธีคุ้มครองสวัสดิภาพที่เหมาะสม ให้กระทำได้เท่าใด
ก. ไม่เกิน 7 วัน ข. ไม่เกิน 7 วันทำการ
ค. ไม่เกิน 15 วัน ง. ไม่เกิน 15 วันทำการ
ตอบ ก. ไม่เกิน 7 วัน
18. หากศาลเห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองเด็กมิให้ถูกทารุณกรรม ให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งให้ตำรวจจับกุมผู้ที่เชื่อว่าจะกระทำทารุณกรรมต่อเด็กมากักขังไว้กำหนดครั้งละเท่าใด
ก. ไม่เกิน 30 วัน ข. ไม่เกิน 60 วัน
ค. ไม่ต่ำกว่า 30 วัน ง. ไม่ต่ำกว่า 60 วัน
ตอบ ก. ไม่เกิน 30 วัน
19. ผู้ใดขัดขวาง ไม่ปฏิบัติตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีความผิด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ข. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 2 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท
ง. จำคุกไม่เกิน 2 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ก. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
20. ผู้ใดกระทำการอันเป็นการยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา 64 พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ข. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท
ง. จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ข. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สรุป พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
*****************
v มาตรา ๔
o “เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส
o “เด็กเร่ร่อน” หมายความว่า เด็กที่ไม่มีบิดามารดาหรือผู้ปกครองหรือมีแต่ไม่เลี้ยงดูหรือไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จนเป็นเหตุให้เด็กต้องเร่ร่อนไปในที่ต่าง ๆ หรือเด็กที่มีพฤติกรรมใช้ชีวิตเร่ร่อนจนน่าจะเกิดอันตรายต่อสวัสดิภาพของตน
o “เด็กกำพร้า” หมายความว่า เด็กที่บิดาหรือมารดาเสียชีวิต เด็กที่ไม่ปรากฏบิดามารดาหรือไม่สามารถสืบหาบิดามารดาได้
o “เด็กที่อยู่ในสภาพยากล่าบาก” หมายความว่า เด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนหรือบิดามารดาหย่าร้าง ทิ้งร้าง ถูกคุมขัง หรือแยกกันอยู่และได้รับความล่าบาก
o “เด็กที่เสี่ยงต่อการกระท่าผิด” หมายความว่า เด็กที่ประพฤติตนไม่สมควรเด็กที่ประกอบอาชีพหรือคบหาสมาคมกับบุคคลที่น่าจะชักน่าไปในทางกระท่าผิด
o “นักเรียน” หมายความว่า เด็กซึ่งก่าลังรับการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ทั้งประเภทสามัญศึกษาและอาชีวศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน
v มาตรา ๖
o ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
v มาตรา ๗
o ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกรรมการ
o ผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่งต้องเป็นสตรีไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามคณะกรรมการ
o กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในต่าแหน่งคราวละสามปี
v มาตรา ๑๖
o ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ
o กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่งต้องเป็นสตรีไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม
v มาตรา ๑๗
o ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานกรรมการ
o กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคหนึ่งต้องเป็นสตรีไม่น้อยกว่าหนึ่งในสาม
v มาตรา ๓๐
Ø พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่
(๑) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้นในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระท่าทารุณกรรมเด็ก (๒) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้นในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระท่าทารุณกรรมเด็ก (๓) มีหนังสือเรียกผู้ปกครอง หรือบุคคลอื่นใดมาให้ถ้อยค่าหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ความประพฤติ สุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัวของเด็ก (๔) ออกค่าสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็ก ส่งเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ การศึกษา การท่างาน หรือความประพฤติของเด็ก (๕) เข้าไปในสถานที่อยู่อาศัยของผู้ปกครอง และรวบรวมข้อมูลหรือหลักฐานเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ การเลี้ยงดู อุปนิสัย และความประพฤติของเด็ก (๖) มอบตัวเด็กให้แก่ผู้ปกครองพร้อมกับแนะน่าหรือตักเตือนผู้ปกครองให้ดูแลและอุปการะเลี้ยงดูเด็กในทางที่ถูกต้อง (๗) ท่ารายงานเกี่ยวกับตัวเด็กเพื่อมอบให้แก่สถานแรกรับหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อมีการร้องขอ
v มาตรา ๓๒ เด็กที่พึงได้รับการสงเคราะห์ได้แก่
(๑) เด็กเร่ร่อน หรือเด็กก่าพร้า (๒) เด็กที่ถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลง ณ ที่ใดที่หนึ่ง (๓) เด็กที่ผู้ปกครองไม่สามารถอุปการะเลี้ยงดูได้ด้วยเหตุใด ๆ (๔) เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรือประกอบอาชีพไม่เหมาะสม (๕) เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ (๖) เด็กพิการ
(๗) เด็กที่อยู่ในสภาพยากล่าบาก (๘) เด็กที่อยู่ในสภาพที่จ่าต้องได้รับการสงเคราะห์ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
v มาตรา ๔๐
เด็กที่พึงได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพได้แก่ (๑) เด็กที่ถูกทารุณกรรม (๒) เด็กที่เสี่ยงต่อการกระท่าผิด (๓) เด็กที่อยู่ในสภาพที่จ่าต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพ
v มาตรา ๔๙
ผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) เยี่ยมเยียน ให้ค่าปรึกษา แนะน่า และตักเตือนเกี่ยวกับเรื่องความ ประพฤติการศึกษา และการประกอบอาชีพแก่เด็ก
(๒) เยี่ยมเยียน ให้ค่าปรึกษา และแนะน่าแก่ผู้ปกครองเกี่ยวกับเรื่อง การอบรมสั่งสอนและเลี้ยงดูเด็ก (๓) จัดท่ารายงานและความเห็นเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของเด็ก
v มาตรา ๗๘
ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา ๒๖ ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาทหรือทั้งจ่าทั้งปรับ มาตรา ๒๖ คือ
(๑) ทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
(๒) ไม่ให้สิ่งจ่าเป็นแก่การด่ารงชีวิตหรือการรักษาพยาบาลแก่เด็ก (๓) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร (๔) โฆษณาทางสื่อมวลชนหรือเผยแพร่ด้วยประการใด เพื่อรับเด็กหรือยกเด็กให้แก่บุคคลอื่น (๕) บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม ยินยอม ให้เด็กไปเป็นขอทาน เด็กเร่ร่อน (๖) กระท่าการอันอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกาย หรือจิตใจมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต
(๗) แสวงหาประโยชน์ทางการค้า (๘) ใช้หรือยินยอมให้เด็กเล่นการพนันไม่ว่าชนิดใด (๙) บังคับ ขู่เข็ญ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กแสดงหรือกระท่าการอันมีลักษณะลามกอนาจาร (๑๐) จำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก
v มาตรา ๘๐
ผู้ใดขัดขวางไม่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๐ (๑) หรือ (๕) ตามมาตรา ๓๐ (๔) ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ่าทั้งปรับ
o มาตรา ๓๐ (๑) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก
o มาตรา ๓๐ (๕) เข้าไปในเคหสถาน สถานที่ใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกเพื่อถามตัวบุคคล
o มาตรา ๓๐ (๔) ออกค่าสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็ก ส่งเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับการศึกษา การท่างาน หรือความประพฤติของเด็ก
v มาตรา ๘๑
ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดของศาลในการคุมความประพฤติ ห้ามเข้าเขตกำหนดหรือห้ามเข้าใกล้ตัวเด็กตามมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ่าทั้งปรับ
o มาตรา ๔๓ กรณีที่ผู้ปกครองหรือญาติของเด็กเป็นผู้กระท่าทารุณกรรมต่อเด็ก ถ้ามีการฟ้องคดีอาญาแก่ผู้กระท่าผิดและมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้ถูกฟ้องนั้นจะกระท่าทารุณกรรมแก่เด็กอีก ก็ให้ศาลที่พิจารณาคดีนั้นมีอำนาจกำหนดมาตรการคุมความประพฤติผู้นั้น ห้ามเข้าเขตกำหนด หรือห้ามเข้าใกล้ตัวเด็กในระยะที่ศาลกำหนด
v มาตรา ๘๒
ผู้ใดจัดตั้งหรือด่าเนินกิจการสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ หรือสถานพัฒนาและฟื้นฟูตามมาตรา ๕๒ โดยมิได้รับใบอนุญาตหรือใบอนุญาตถูกเพิกถอนหรือหมดอายุ ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจ่าทั้งปรับ
o มาตรา ๕๒ ผู้ใดจะจัดตั้งสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู ต้องขอรับใบอนุญาตต่อปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี
v มาตรา ๘๕
ผู้ใดกระท่าการอันเป็นการยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนบทบัญญัติตามมาตรา ๖๔ ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจ่าทั้งปรับ
o มาตรา ๖๔ นักเรียนและนักศึกษาต้องแต่งกายตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและตามที่ก่าหนดในกฎกระทรวง
v มาตรา ๘๖
ผู้ใดไม่อ่านวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตาม มาตรา ๖๗ ต้องระวางโทษจ่าคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจ่าทั้งปรับ
o มาตรา ๖๗ ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับความประพฤติของนักเรียนหรือนักศึกษา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ่านาจเข้าไปในเคหสถาน สถานที่หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่างเวลาท่าการเพื่อท่าการตรวจสอบการฝ่าฝืนดังกล่าวได้
สรุปสาระของ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
******************
1. พ.ร.บ.ดังกล่าว ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 2 ต.ค.2546 ม.2 ให้มีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วันฯ จึงมีผลบังคับใช้แต่ 30 มี.ค.2547 มี 88 มาตรา มุ่งเน้นการสงเคราะห์ช่วยเหลือ และลงโทษผู้เกี่ยวข้องไม่ใช่ลงโทษเด็ก นอกจากนั้น กม.ออกมาเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ,แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และใน กม.นี้ยังกำหนดให้จัดตั้งกองทุนคุ้มครองเด็ก
2. ยกเลิก ปว.ฉ.132 และ 294 ลง 22 เม.ย.และ27 พ.ย.2515 ซึ่งเป็น กม.ส่งเสริมความประพฤตินักเรียน และเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กที่มุ่งลงโทษมากกว่าแก้ไขฟื้นฟู
3. มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับชาติ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นประธานกรรมการ นอกจากนั้น ม.17 กำหนดให้มีในระดับจังหวัด ซึ่ง จว.สงขลา ได้มีคำสั่งที่ 460/2547 ลง 12 มี.ค.47 แต่งตั้งคณะกรรมการ มี ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน กรรมการได้แก่ รอง ผวจ., อัยการจังหวัด, พัฒนาการจังหวัด, แรงงานจังหวัด, ผบก.ภ.จว.สงขลา, ผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆ เช่นด้านสังคมสงเคราะห์, ครู, นักจิตวิทยา, นัก กม., ผู้มีประสบการณ์ด้านสวัสดิการเด็ก และมีพัฒนาสังคมและสวัสดิการจังหวัดสงขลาเป็นกรรมการและเลขานุการ
4. คณะกรรมการฯได้ประชุมไป 2 ครั้งเมื่อเดือน มิ.ย.และ 19 ส.ค.47 มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการระดับอำเภอทุกอำเภอ ซึ่งแน่นอนว่านายอำเภอเป็นประธาน และ ผกก.ทุกท่านเป็นกรรมการ
5. อำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ตาม ม.20 และทั้งคณะกรรมการและอนุกรมการเป็นเจ้าพนักงานตาม ป.อาญา
6. คำนิยาม ม.4 เด็ก คือบุคคลอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์(ไม่รวมบรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส) นอกจากนั้นมีคำนิยามเรื่องเด็กเร่ร่อน, เด็กกำพร้า, เด็กอยู่ในสภาพลำบาก, เด็กพิการ, เด็กเสี่ยงต่อการกระทำผิด, นักเรียน, นักศึกษา, บิดามารดา, ผู้ปกครอง เป็นต้น
7. การปฏิบัติต่อเด็ก
7.1 ผู้ปกครองต้องอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ตาม ม.23 ต้องไม่กระทำการต่อเด็ก 5 ประการตาม ม.25 ฝ่าฝืนไม่มีโทษ มีแต่เฉพาะ ม.39 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ม.24 เรียกผู้ปกครองมาทำทัณฑ์บนหรือวางเงินประกันถ้าทำผิดทัณฑ์บนให้ริบเงินประกันเข้ากองทุน เช่นเดียวกับ ม.44 และ 45 กรณีมีการกำหนดให้ผู้ปกครองปฏิบัติให้เหมาะสม 7 ประการ และกรณีเด็กซื้อหรือเสพสุรา บุหรี่ หรือเข้าไปสถานที่เฉพาะเพื่อการเสพสุราหรือบุหรี่
7.2 กำหนด หน.ส่วนราชการตาม ม.24 มีหน้าที่คุ้มครองเด็ก
7.3 ห้ามผู้ใด กระทำการ 10 ประการต่อเด็ก ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ฝ่าฝืนโทษตาม ม.78 จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่เรื่องนั้นๆ มี กม.เฉพาะและโทษหนักกว่า
7.4 ห้ามผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนฯ ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กโดยเจตนาที่จะ ทำให้เด็กเสียหายแก่จิตใจชื่อเสียง หรือเพื่อแสวงหาประโยชน์แก่ตนหรือผู้อื่น นอกจากนั้นยังห้ามพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม ม.50 ฝ่าฝืนโทษตาม ม.79 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
7.5 ห้ามเจ้าของกิจการ ผู้ปฏิบัติงานในสถานรับเลี้ยงเด็กทำร้ายร่างกาย จิตใจ กักขัง ทอดทิ้ง หรือลงโทษอื่นฯฝ่าฝืนโทษตาม ม.79 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
7.6 ใน ม.64 นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา ม.85 ลงโทษผู้ใดที่ยุงยง ส่งเสริม ช่วยเหลือหรือสนับสนุนนักเรียนให้ฝ่าฝืน ม.64 จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
8. เด็กที่ได้รับการสงเคราะห์ตามกม.นี้มี 8 ประเภท ตาม ม.32
9. ม.41 ผู้ใดพบเห็นเด็กถูกทารุณกรรม, เด็กเสี่ยงต่อการกระทำผิด, เด็กที่อยู่ในสภาพต้องได้รับการคุ้มครองหรือประสบพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่ามีการทารุณกรรมต่อเด็ก ให้รีบรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ (ผู้รับการแต่งตั้ง), พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ, ผู้มีหน้าที่ตาม ม.24 และให้มีอำนาจข้าตรวจค้นและแยกตัวเด็กออกจากครอบครัวเพื่อคุ้มครองตาม กม. นี้โดยเร็วที่สุด
#คลิ๊กดูแนวข้อสอบราชการที่ www.โหลดแนวข้อสอบราชการ.com
#รวมข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมโดยอาจารย์ของสถาบัน
#เจาะลึกครอบคุมตรงประเด็น เนื้อหาสาระสำคัญ ข่าวสารทันโลก
#จำหน่ายแนวข้อสอบมานานกว่า 10 ปี การรันตีจากผู้สอบติดมากมาย
#รวมหนังสือหรือไฟล์ เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาไปนั่งติว
แนวข้อสอบมี 2 รูปแบบ
1.แบบที่ 1 รอรับได้เลย ราคาเพียง 399 บาท (รอรับ 1-2 ชม หลังโอน)
2.แบบที่ 2 หนังสือ **ฟรี MP3** ราคา 699 บาท (ส่งฟรีขนส่งเอกชน)
ติดต่อสอบถาม/สั่งซื้อแนวข้อสอบ
โทร: 082-8551615 (คุณปาณิสรา)
Line ID : Panisara_test หรือคลิ๊กสั่งซื้อทันที
ชำระค่าสินค้าและบริการ
-ธ.กรุงไทย เลขที่บัญชี 983-0-97701-3
-ธ.กสิกรไทย เลขที่บัญชี 549-2-17930-4
(ชื่อบัญชี ปาณิสรา พระกาย ออมทรัพย์ )